บทความ
บทความเรื่อง การรักษาโรคปริทันต์ในผู้สูงอายุ
ผู้เขียนบทความ ผศ.ทพญ.กันยวัชร์ รัตนสุวรรณ
สังกัด ภาควิชาเวชศาสตร์ช่องปากและปริทันตวิทยา คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
วัตถุประสงค์ เป็นบทความในชุดการเรียนรู้ด้วยตนเองในเว็บไซต์ของศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางทันตแพทย์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565
การรักษาโรคปริทันต์ในผู้สูงอายุ
การเปลี่ยนแปลงของอวัยวะปริทันต์ในผู้สูงอายุ แบ่งได้เป็น 5 ระดับ
- Intrinsic changes การเปลี่ยนแปลงระดับเซลล์ (cell) พบว่าอัตราการสร้างเซลล์ทดแทนลดน้อยลง และมีการเสื่อมสภาพของเซลล์ต้นกำเนิด (progenitor cell)
- Stochastic changes การเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างของเซลล์ พบว่าโครงสร้างของเซลล์มีความยืดหยุ่นน้อยลง มีการเลือดมาเลี้ยง (blood supply) ในบริเวณอวัยวะปริทันต์ลดน้อยลง มีการสะสมของของเสีย โดยเฉพาะอนุมูลอิสระ (free radical) มากขึ้น
- Physiologic changes การเปลี่ยนแปลงในระดับเนื้อเยื่อปริทันต์ พบว่าความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อลดน้อยลง เส้นใย (fiber) ในอวัยวะปริทันต์ฉีกขาดได้ง่าย
- Functional changes การเปลี่ยนแปลงในการทำหน้าที่ของอวัยวะปริทันต์ พบว่าความสามารถในการซ่อมแซม (healing capacity) และอัตราการซ่อมแซฒ (healing rate) ของอวัยวะปริทันต์ลดลง และพบว่าในผู้สูงอายุบางคนมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากมี highly susceptible ต่อเชื้อไวรัสและเชื้อรา
- Clinical changes การเปลี่ยนแปลงทางคลินิกของอวัยวะปริทันต์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากอายุมากขึ้นโดยไม่ได้มีสาเหตุจากโรคปริทันต์อักเสบ (periodontal disease) ได้แก่
- ชั้น epithelium ในช่องปากของผู้สูงอายุบางลง ดังนั้นจะเกิดการระคายเคือง และเป็นแผลได้ง่าย
- เส้นใยของเอ็นยึดปริทันต์ (periodontal ligament fiber) ขาดความยืดหยุ่นและฉีกขาดง่าย
- มักพบเหงือกร่นในผู้สูงอายุ ซึ่งการเกิดเหงือกร่นในผู้สูงอายุมักสัมพันธ์กับการเป็นโรคปริทันต์อักเสบมาก่อนหรือการแปรงฟันผิดวิธี
- การสูญเสียการยึดเกาะของอวัยวะปริทันต์ (clinical attachment loss) และการสูญเสียกระดูกเบ้าฟัน (alveolar bone loss)
- มีชั้นเคลือบรากฟัน (cementum) หนาขึ้น
ลักษณะของคราบจุลินทรีย์ในผู้สูงอายุ
- ปริมาณของคราบจุลินทรีย์ไม่มีความแตกต่างกันระหว่างอายุน้อยและผู้สูงอายุ ซึ่งปริมาณของคราบจุลินทรีย์ขึ้นกับการดูแลสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล
- ส่วนประกอบหรือปริมาณเชื้อในคราบจุลินทรีย์
- คราบจุลินทรีย์เหนือเหงือก (supra-gingival plaque) ไม่แตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ
- คราบจุลินทรีย์ใต้เหงือก (sub-gingival plaque) พบว่าเชื้อ Porphyromonas gingivalis (Pg) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคปริทันต์มีบทบาท (influence) มากขึ้นอย่างชัดเจนในผู้สูงอายุ
โรคปริทันต์อักเสบมีลักษณะอย่างไรในผู้สูงอายุ
- โรคปริทันต์อักเสบตรวจพบได้มากในผู้สูงอายุ โดยอายุที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นสาเหตุหรือเป็นปัจจัยเสี่ยง (risk factor) ของการเกิดโรคปริทันต์อักเสบ
- สาเหตุที่พบโรคปริทันต์อักเสบมากขึ้นในผู้สูงอายุเนื่องจาก โรคปริทันต์อักเสบเป็นโรคเรื้อรังการดำเนินโรคใช้เวลานานจึงจะแสดงอาการ ดังนั้นจึงตรวจพบได้มากในผู้สูงอายุ ระบบภูมิคุ้มกันในผู้สูงอายุเสื่อมลง ความเสื่อมของสมองและกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้ความสามารถในการดูแลสุขภาพช่องปากของผุ้สูงอายุลดลง ร่วมกับปริมาณและบทบาทของเชื้อก่อโรคปริทันต์มากขึ้นในคราบจุลินทรีย์ใต้เหงือกของผู้สูงอายุ
แนวทางของการรักษาโรคปริทันต์อักเสบในผู้สูงอายุ เพื่อลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียโดย
- การควบคุมอนามัยช่องปากโดยตัวผู้สูงอายุและ/หรือผู้ดูแล (control oral hygiene)
- การขูดหินน้ำลาย เกลารากฟันโดยทันตแพทย์ (mechanical debridement)
การรักษาโรคปริทันต์อักเสบในผู้สูงอายุควรคำนึงถึงปัจจัยต่อไปนี้
- แผนการรักษานั้นควรเหมาะสมกับสุขภาพทางกายและใจของผู้สูงอายุแต่ละคน
- เป้าหมายของการรักษาโรคปริทันต์อักเสบในผู้สูงอายุ คือ ให้ผู้สูงอายุสามารถคงสภาพสภาวะปริทันต์ที่ดีและใช้งานในชีวิตประจำวันได้
- การรักษาปริทันต์บำบัดแบบไม่ผ่าตัด (non-surgical periodontal treatment) เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมปริทันต์ (periodontal surgery) ยกเว้นมีข้อบ่งชี้หรือจำเป็นในการทำผ่าตัดศัลยกรรมปริทันต์ และสามารถควบคุมโรคทางระบบของผู้สูงอายุได้ ก็สามารถเลือกทำศัลยกรรมปริทันต์ในผู้สูงอายุได้
- ในฟันที่มี questionable prognosis การถอนฟันเป็นทางเลือกที่ง่ายในการดูแลมากกว่าสำหรับผู้สูงอายุ
- ความสำเร็จของการรักษาโรคปริทันต์อักเสบในผู้สูงอายุประกอบด้วย
- สามารถป้องกันการกลับมาเป็นโรคปริทันต์อักเสบซ้ำได้
- ผู้สูงอายุสามารถรับประทานอาหารได้ ใช้บดเคี้ยวได้ โดยไม่เจ็บปวด
- มีความสวยงามที่รับได้
- ผู้สูงอายุสามารถดูแลช่องปากได้ง่ายด้วยตนเองหรือผู้ดูแล
ความสำเร็จในการรักษาโรคปริทันต์อักเสบในผู้สูงอายุต้องอาศัย 2 ปัจจัยที่สำคัญ คือ
- การเอาใจใส่ดูแลสุขภาพช่องปากโดยผู้สูงอายุและผู้ดูแล
- ความสม่ำเสมอของผู้สูงอายุในการกลับมารับการ motivate oral hygiene และทำความสะอาดโดยทันตแพทย์