บทความ
ทพญ.พรภัทรา จุฬามณี
Pornpattra.c@cmu.ac.th
ในปัจจุบันการประเมินอายุของบุคคลสามารถทำได้หลายวิธีและสามารถเลือกใช้อวัยวะในการประเมินได้หลากหลาย ซึ่งฟันในช่องปากนั้นเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สามารถนำมาใช้ประเมินอายุได้ การประเมินอายุจากฟันสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่
- การประเมินอายุจากการลำดับการขึ้นของฟัน (Tooth eruption) และพัฒนาการของฟัน (Mineralization stage of tooth)
การประเมินอายุจากการลำดับการขึ้นและการพัฒนาของฟัน1, 2, 3, 4, 5, 6, 7เป็นวิธีที่นิยมใช้ในเด็กและวัยรุ่นซึ่งสามารถดูได้จากการตรวจทางคลินิกร่วมกับการถ่ายภาพรังสี โดยการประเมินจะถูกแบ่งตามช่วงอายุ 4 ช่วง ได้แก่
1.1 การประเมินอายุจากลำดับการขึ้นของฟันน้ำนม ในช่วงอายุ 0-3 ปี
การขึ้นของฟันน้ำนมในเด็กที่มีการเจริญเติบโตปกติจะมีช่วงเวลาให้การขึ้นของฟันที่ชัดเจนและชุดฟันน้ำนม (Primary dentition) มักจะอยู่ในช่วง 0 - 2.5 ปีแรก1 ดังแสดงในรูปที่ 1 หลังจากนั้นจะค่อยๆ มีการขึ้นของฟันแท้เข้ามาแทนที่
รูปที่ 1 แสดงช่วงเวลาการขึ้นของฟันน้ำนม1
1.2 การประเมินโดยใช้แผนภูมิภาพพัฒนาการของฟันแท้ 14 ซี่ ในช่วงอายุ 3-7 ปี
หลังจากฟันน้ำนมขึ้นครบในช่องปาก หน่อฟันแท้ที่อยู่ในขากรรไกรรวมถึงฟันแท้ที่เริ่มขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมสามารถนำมาประเมินอายุได้เช่นกัน โดยเมื่อฟันแท้ซี่เริ่มขึ้นในช่องปากโดยที่ยังมีฟันน้ำนมอยู่จะถูกเรียกว่าฟันชุดผสม (Mix dentition) การใช้แผนภูมิภาพพัฒนาการของฟันแท้ในการประเมินอายุเป็นวิธีที่ค่อนข้างแม่นยำและแพร่หลาย3 ดังแสดงในรูปที่ 2
รูปที่ 2 แสดงตัวอย่างแผนภูมิภาพของการพัฒนาของฟันแท้ อายุ 5.5 ปี3
1.3 การประเมินอายุจากพัฒนาการของฟันแท้ล่างซ้าย 7 ซี่ ในช่วงอายุ 7-15 ปี
การพัฒนาของฟันล่างซ้ายนั้นสามารถดูได้จากภาพถ่ายรังสีพาโนรามิก4, 6 โดยแต่ละซี่จะถูกประเมินระยะการสร้างของฟันโดนอ้างอิงจาก Demirjian method ในช่วงวัยนี้จะพบได้ทั้งฟันชุดผสม(Mix dentition)และชุดฟันแท้ทั้งปาก(Permanent dentition)
รูปที่ 3 แสดงตัวอย่าง 7 ปี 1 เดือนโดยประเมินอายุจากพัฒนาการของฟันล่างซ้ายโดยใช้ Demirjian method ร่วมกับ dedicated software6
1.4 การประเมินอายุจากสมการทำนายอายุโดยดูจากพัฒนาการของฟันกรามแท้ซี่ที่ 3 ในช่วงอายุ 15-23 ปี
ในกรณีที่ฟันแท้ซี่อื่นๆ ขึ้นและรากปิดสมบูรณ์แล้วการพัฒนาของฟันกรามแท้ซี่ที่ 3 สามารถนำมาใช้ประเมินอายุได้5, 8โดยการให้คะแนนตามการพัฒนาของฟันแล้วนำไปเข้าสมการเพื่อให้ได้ช่วงอายุออกมา8
รูปที่ 4 หลักเกณฑ์การให้คะแนนการพัฒนาการของฟันกรามแท้ซี่ที่ 3 โดยอ้างอิงจาก Demirjian method5
นอกจากนี้ในช่วงฟันชุดผสม (Mix dentition) และฟันแท้(Permanent dentition) สามารถประเมินช่วงอายุโดยคร่าวได้โดยการตรวจดูฟันแท้ที่ขึ้นในทางคลินิก2 ดังแสดงในรูปที่ 5
รูปที่ 5 แสดงช่วงเวลาการขึ้นของฟันแท้2
- การประเมินอายุจากอัตราส่วนเนื้อเยื่อโพรงประสาทต่อตัวฟัน (Pulp/tooth ratio)
เนื่องจากในวัยผู้ใหญ่ฟันแท้จะขึ้นครบในช่องปากและรากฟันปิดสมบูรณ์ การประเมินอายุโดยดูจากการพัฒนาของฟันจะนำมาใช้ในการประเมินได้ยากหรืออาจไม่สามารถใช้ได้เลย การประเมินอายุในผู้ใหญ่จึงต้องประเมินโดยดูจากการเปลี่ยนแปลงของเนื้อฟันทุติยภูมิ (secondary dentine)9, 10, 11 โดยเมื่อมีอายุมากขึ้นจะมีเนื้อฟันที่หนาตัวขึ้นส่งผลให้ช่องว่างของเนื้อเยื่อโพรงประสาทแคบลง จากความสัมพันธ์ดังกล่าวจึงสามารถนำอัตราส่วนระหว่างเนื้อเยื่อโพรงประสาทต่อตัวฟันมาประเมินช่วงอายุได้ โดยอาจวัดเป็นระยะ พื้นที่ หรือปริมาตร โดยวิธีการประเมินนี้ จำเป็นต้องมีภาพถ่ายรังสีของฟันซี่นั้นๆ
- การประเมินอายุจากการสึกของฟัน (Occlusal tooth wear)
การใช้การประเมินอายุจากการสึกของฟันสามารถทำได้โดยการสังเกตทางคลินิก11, 12, 13 โดยจะมีเกณฑ์การให้คะแนนการสึกของฟันแต่ละซี่ แล้วนำคะแนนที่ได้ไปคำนวณในสมการ ซึ่งเกณฑ์การให้คะแนนนั้นขึ้นอยู่กับสมการที่เลือกใช้และประเภทของซี่ฟันที่ใช้คำนวณ เช่น Modified Kim’s index ใช้ฟันกรามน้อยและฟันกราม Average stage of attrition chart ใช้เฉพาะในซี่ฟันกราม เป็นต้น
- การประเมินอายุจากสารชีวเคมีในฟัน (Biochemical methods)
L-aspartic acid เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่พบได้ในฟัน เมื่ออายุมากขึ้นสารดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างและสะสมอยู่ในรูปของ D-aspartic acid มากขึ้น11, 14, 15, 16, 17 การใช้สารชีวเคมีในฟันในการประเมินอายุสามารถทำได้โดยใช้อัตราส่วนของ D/L enantiomer ของ aspartic acid ที่สะสมอยู่ในเคลือบฟันและเนื้อฟันโดยนำอัตราส่วนนี้ไปเข้าสมการ ln [(1+D/L)/(1-D/L)] = (rate constant of racemization x age) + constant number ซึ่งค่าrate constant of racemization และ constant number ได้มาจากความสัมพันธ์เชิงเส้นของ ln [(1+D/L)/(1-D/L)] และอายุ