บทความ
ผลข้างเคียงของยาที่ใช้ในผู้ป่วยจิตเวชเด็กต่อช่องปาก
การรักษาผู้ป่วยเด็กพิเศษมีเป้าหมายการรักษาอยู่ที่ การกระตุ้นและฟื้นฟูพัฒนาการในด้านต่าง ๆ โดยการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดคือ การปรับพฤติกรรมและฝึกทักษะทางสังคม การกระตุ้นพัฒนาการ และการรักษาด้วยยา การรักษาด้วยยามีส่วนสำคัญเพื่อลดพฤติกรรมที่เป็นปัญหาและเพื่อให้การฝึกดำเนินต่อด้วยความราบรื่น โดยยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยเด็กพิเศษจะมีความแตกต่างกันตามโรคและอาการของเด็ก แต่พบว่าการรัษาด้วยยาอาจส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาได้ เช่นยารักษาโรคจิตกลุ่มใหม่ (Atypical antipsychotics) มีอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาที่พบบ่อยคือ acute extrapyramidal side effect (เมื่อใช้ risperidone ในขนาดที่สูง) ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติระดับน้ำตาลในเลือดสูงและภาวะ hyperprolactinaemia ส่วนอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดในช่องปากเป็นหนึ่งในอาการไม่พึงประสงค์ที่สำคัญ เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ ส่งผลต่อการรับประทานอาหารของเด็ก และบางอาการ เช่น น้ำลายมาก เหงือกโต ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเด็ก นำไปสู่ความไม่ร่วมมือในการใช้ยาได้ แต่อย่างไรก็ตามอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่องปากต้องพิจารณาสาเหตุอื่นๆก่อนจะตัดสินใจว่าเกิดจากยา รวมทั้งระยะเวลาที่ได้รับยาและช่วงเวลาที่เกิดอาการ
ตารางที่ 2.1 ยาที่ใช้ในผู้ป่วยเด็กพิเศษที่มีผลต่อการรักษาทางทันตกรรม
ประเภทของยา |
ผลข้างเคียงในช่องปาก |
Drug interaction ต่อยาทันตกรรม |
ผลจาก Drug Interaction ต่อยาทันตกรรม |
หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
1.ยารักษาโรคจิต (antipsychotic drugs) |
||||
1.1 ยารักษาโรคจิตกลุ่มดั้งเดิม (conventional antipsychotic drugs) Chlorpromazine, Haloperidol, Thioridazine |
|
|
|
|
1.2 ยารักษาโรคจิตกลุ่มใหม่ (atypical antipsychotic drugs) Clozapine,Risperidone,Quetiapine,Aripiprazole |
|
|
|
|
2. ยารักษาโรคสมาธิสั้น |
||||
|
|
|
|
|
3. ยารักษาโรคซึมเศร้า (Antidepressant drugs) |
||||
3.1ยารักษาโรคซึมเศร้ากลุ่มเอสอาร์ไอ (selective serotonin reupatake inhibitors : SSRIs) Fluoxetine, Sertraline |
|
|
|
|
4. ยาปรับอารมณ์ (Mood stabilizer) |
||||
4.1 Valproate sodium |
|
|
|
|
4.2 Carbamazepine |
|
|
|
|
5. ยากันชัก |
||||
5.1 Phenytoin |
|
|
|
|